B-1 Presentation (01999032 Thai Study)

1. ควรมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนในชุมชนอย่างจริงจัง ว่าแต่ละคนในชุมชนมีความคิด หรือแนวทางแก้ไขอย่างไรในการจัดการกับปัญหาที่ชุมชนกำลังเผชิญอยู่

​

2. ควรมีการถ่ายทอดความรู้วิธีการทำบาตรให้แก่คนที่สนใจอย่างเป็นระบบ ชี้แนะแนวทางในการประกอบอาชีพนี้ ว่านอกจากจะได้รับผลบุญทางจิตใจที่ไดรับใช้พระพุทธศาสนาแล้ว ยังมีรายได้ที่ค่อนข้างดี สามารถหล่อเลี้ยงครอบครัวได้

​

3. ควรมีหน่วยงานจากภาครัฐลงไปดูแลอย่างจริงจังและทั่วถึง มีการถามถึงปัญหาของชุมชนและแนะแนวทางในการหาทางรอดอย่างเป็นระบบ

​

4. ควรมีการปลูกฝังคนในชุมชน หรือเด็กรุ่นใหม่ให้ตระหนักและให้เห็นคุณค่าของบาตร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการทำบาตรที่สำคัญและสร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน

​

5. ควรให้มีการรื้อฟื้นวัฒนธรรมรำวงบ้านบาตร ซึ่งมีน้อยคนที่จะรู้จัก หรืออาจไม่รู้มาก่อนว่าชุมชนบ้านบาตรนั้นได้มีวัฒนธรรมการรำวงซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชุมชน

​

6. กระทรวงวัฒนธรรม และองค์กรต่างๆของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาดูแล จัดการ พูดคุยวางแผนการแก้ไขปัญหาให้กับคนในชุมชน หรือผู้ผลิตทั้ง 5 ราย ว่าจะมีวิธีการอนุรักษ์หัตกรรม ภูมิปัญญาที่สำคัญนี้ให้คงอยู่ยาวนานที่สุดอย่างไร

​

7. ควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านการตลาดกับคนภายในชุมชนว่าควรนำมาประยุกต์ใช้ และปฏิบัติอย่างไรเพื่อทำสถานที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยว และยังมีรายได้มาหล่อเลี้ยงคนในชุมชนได้อย่างลงตัว

​

8. บาตรควรออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความสร้างสรรค์ มีความทันสมัยแบบศิลปะไทยประยุกต์ เพราะกลุ่มลูกค้าไม่ได้มีเพียงชาวไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจในด้านนี้อีกด้วย